[ข่าวลือ] Logic 8 อาจไม่มีอีกต่อไป...

ที่ว่าข่าวลือเพราะไม่ได้มาจาก Apple อย่างเป็นทางการครับ หากแต่มาจาก Blog ของอดีตพนักงานของ Emagic ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศษ

Des collectors Emagic : ça vous intéresse ?
Logic 8 : Une nouvelle pièce au puzzle !

สาระสำคัญก็คือ Logic อาจหยุดอยู่ที่เวอร์ชัน 7 ส่วนซอฟต์แวร์ดนตรีตัวใหม่ของ Apple คือมือล่าสังหาร Protools ในคราบ Logic โดยออกแบบอินเตอร์เฟสใหม่หมด ซึ่งจะรองรับกับหน้าจอทัชสกรีนตัวใหม่ของ Apple พอดี โดยซอฟต์แวร์ตัวใหม่นี้มีการดำเนินงานมากว่า 5 ปีได้แล้วครับ และจะใช้ได้กับ OS 10.5 เท่านั้น

ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ Apple พยายามจะผลักดันมาตรฐานใหม่ที่ดีกว่า เพื่อมาแทนที่ MIDI ที่เป็นโปรโตคอลเก่าแก่มากแล้ว เมื่อเทียบกับอายุของมันครับ

เราอาจจะยังเชื่อข่าวนี้ไม่ได้มากนัก แต่ผมคิดว่า Protools ที่เป็นมาตรฐานของงานเสียงในปัจจุบัน จะมีคู่แข่งเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นอีกระดับนั่น เป็นเรื่องที่ดีมากจริง ๆ

ที่มา CDM, Arstechnica

2 ความคิดเห็น

[PassionGirl] สมมติว่าเธอคือ Thumb Drive

1 ความคิดเห็น

สุดท้ายก็ต้องยอม...

เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา Spam Bot รบกวน PassionBoard ตลอดเลยครับ จนสุดจะทานทนแล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นบอร์ดที่เปิดสำหรับ PassionSoundian ที่ลงทะเบียนเท่านั้น ผมทราบว่ามี PassionSoundian ประเภท Read-Only อยู่เยอะ ถ้ายังไง รบกวนสมัครเข้ามาเพื่อที่จะใช้ Board ได้นะครับ

ขอบคุณมาก ๆ ที่สนับสนุนกันมาตลอด

3 ความคิดเห็น

[เพลงสั้น...แต่ดังสนั่นโลก] ที่มาของเสียง THX

 

หลายคนอาจคุ้นเคยกับ “หนังสั้น” มากกว่า แต่ในโลกนี้ยังมี “เพลงสั้น” ที่หลายคนไม่อาจจัดได้ว่ามันเป็นเพลงเลยด้วยซ้ำ เพราะเพลงสั้นที่ผู้เขียนพูดถึงนั้น อาจมีความยาวไม่ถึง 2 วินาทีเลยก็ได้ หลายคนเลยจัดว่ามันเป็นเพียงซาวน์เอฟเฟกต์มากกว่า อย่างไรก็ตาม...ในโลกนี้ยังมีเพลงสั้นอยู่หลายเพลงที่ถูกฟังกันบ่อยมาก ๆ หรือในโลกนี้มีคนฟังมันอยู่แทบทุกวินาทีเลยทีเดียวครับ (ยกตัวอย่างเพลงตอนเปิด Windows นั่นไง)

ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านสกู๊ปน่าสนใจจากเว็บ Music Thing (MusicThing.co.uk) เป็นเรื่องราวเบื้องหลังเพลงสั้นเหล่านั้น ซึ่งมีความสนุก ได้ความรู้+แรงบันดาลใจในการทำงานด้านนี้มาก จึงอยากมานำเสนอกันสู่ผู้อ่านขาประจำ ที่ชอบเรื่องราวเหล่านี้ สำหรับตอนนี้เริ่มต้นด้วยเสียงที่นักดูหนังคุ้นเคยกันมากว่า 20 อย่างเสียง “Deep Note” เสียงที่ถูกเล่นก่อนดูหนังในโรงภาพยนตร์ และเป็นเสียงที่เท่มาก ๆ ตั้งแต่ได้ยินครั้งแรกจนถึงบัดนี้ก็ยังรู้สึกสะใจเล็ก ๆ ทุกทีที่ได้ฟัง...

“ผมอยากบอกว่าเสียง THX นั้นเป็นเสียงสังเคราะห์จากคอมพิวเตอร์ที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก และถึงแม้มันอาจจะไม่ใช่ก็ตาม เสียงมันก็ยังเจ๋งอยู่ดี”

แอนดี้ มัวเรอร์ (Andy Moorer: www.jamminpower.com/jam.jsp) ผู้แต่ง กล่าวไว้อย่างนั้นครับ หากท่านผู้อ่านอยากจะลองฟังอีกครั้ง ลองเข้าไปที่ http://www.thx.com/trailers/

แอนดี้ มัวเรอร์

Dr. James ‘Andy’ Moorer แต่ง Deep Note ในปี 1982 นอกจากผลงานระดับโลกแล้ว งานประจำที่เค้าทำก็ถือว่าเท่มาก ๆ อีกด้วยครับ ในชีวิตเค้าได้สิทธิบัตร 4 ใบ ออสการ์หนึ่งตัว ในยุค 60 ทำงานที่ศูนย์ทดลองวิจัยปัญญาประดิษฐ์ที่สแตนฟอร์ด ยุค 70 ทำงานที่ IRCAM (http://www.ircam.fr) ในปารีส วิจัยเรื่องเกี่ยวกับ Speech Synthesis และบัลเลย์ ยุค 80 ทำงานที่ LucasFilm DroidWorks ก่อนจะไปทำงานกับสตีฟ จ๊อบที่ NeXT ในวันนี้เค้าทำงานเป็นที่ปรึกษา, ซ่อมวิทยุหลอดและเล่นเบนโจ

มีเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ Deep Note มาฝาก ดังนี้ครับ

· มีการเล่นเสียง Deep Note กว่า 4 พันครั้งในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกต่อหนึ่งวัน นั้นเท่ากับว่ามีการเล่นทุก ๆ 20 วินาที

· ครอบครัว Simpsons ได้รับอนุญาตให้แสดงภาพยนตร์ล้อเลียน เนื่องจาก Deep Note มีความดังมากจนหัวซิมป์สันถึงกับระเบิด (ชมภาพยนตร์ได้ที่ http://www.pocketmovies.net/detail_36.html) แต่ศิลปินอย่าง Dr Dre โชคร้ายกว่าครับ เค้าขออนุญาติแซมเปิ้ลเสียง Deep Note แต่โดนปฏิเสธ แต่เค้ายังแอบใช้มันในงานเพลงจนได้ แล้วถูก Lucas Film ฟ้องในที่สุด

· นักศึกษาของสแตนฟอร์ด Jesse Fox พยายามสร้างเสียง Deep Note ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งผลลัพธ์ก็ยังคงไกลห่างจากของจริงอยู่มาก (Music Thing แซวว่าเหมือนอุบัติเหตุในโรงงานทำออร์แกน อ่านเพิ่มเติมและลองฟังเสียงได้ที่ http://ccrma-www.stanford.edu/~jrobfox/220a/hw5.htm)

· มีทฤษฏีหลายอันบนอินเตอร์เนต ที่พยายามจะวิเคราะห์ว่าเสียง Deep Note สร้างมาได้ยังไง บ้างก็ว่ามาจาก Yamaha CS-80 บ้างก็ว่า Synclavier แต่แท้จริงแล้ว มันสร้างมาจากคอมพิวเตอร์เมนเฟรมขนาดยักษ์ที่ LucasFilm ครับ เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่กว่า 20 ปี ไม่เคยมีใครถามแอนดี้เลย (ทอมแห่ง Music Thing เป็นคนแรกที่กล้าถาม) แล้วแอนดี้จึงเริ่มเล่าความเป็นมาทั้งหมดให้ฟังครับ...

Dr Dre แฟนเพลง Hip Hop คงรู้จักเค้าดี เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งพยายามแซมเปิ้ล Deep Note มาใช้ในงานเพลง ก่อนจะถูก Lucas Film เล่นงาน

ความเป็นมาของ Deep Note (ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงจากผู้สร้าง)

ตอนนั้นผมทำงานให้ LucasFilm ในแผนกคอมพิวเตอร์ ซึ่งเริ่มทำตั้งแต่ปี 1980 จน 1987 ที่นั่นสร้างบุคคลากร ออกดอกออกผลให้กับ Pixar และ Sonic Solutions ในภายหลังด้วย ตอนนั้นผมเป็นหัวหน้าของทีมเสียง ในช่วงปี 1982 พวกเราทำการสร้าง Audio Processor ขนาดใหญ่มหึมา เพราะตอนนั้นยังไม่มีชิพ DSP ให้ใช้กันเลย แล้วเราเรียกมันว่า ASP (Audio Signal Processor)

ตอนนั้นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Tom Holman ทำงานอยู่ที่นั่น เค้าได้พัฒนาระบบที่ปัจจุบันนี้เรียกว่า THX Sound System มันถูกใช้เป็นครั้งแรกให้กับหนัง “Return of the Jedi” ของทาง Lucas Film เอง ตัวโลโก้นั้นถูกสร้างมาก่อนตัวหนัง แล้วผมก็ถูกขอจากผู้สร้างโลโก้ให้ทำเสียงให้ เค้าบอกกับผมว่าเค้าต้องการ “เสียงที่ไม่สามารถจับแหล่งที่มาและทิศทางได้ แล้วเป็นเสียงที่ใหญ่...ใหญ่มหึมาเลย” ก็ในเมื่อเค้าขอมา ผมก็เลยจัดให้...

Deep Note ถูกใช้เป็นปฐมฤกษ์ให้กับสุดยอดหนัง Sci-Fi เรื่องนี้

ผมเริ่มสร้างโปรแกรมสังเคราะห์เสียงสำหรับใช้กับ ASP ที่เปรียบเสมือนดั่งเครื่องสังเคราะห์เสียงระบบดิจิตอลขนาดใหญ่ ผมใช้เวฟฟอร์มเสียงเชลโล่ที่บันทึกมาในระบบดิจิตอล เป็นเวฟฟอร์มพื้นฐานให้กับออสซิลเลเตอร์ ผมยังจำได้ว่ามันมี 12 ฮาร์โมนิกส์ เครื่องนั้นสามารถรันออสซิลเลเตอร์ได้ทีละ 30 ตัวแบบเรียลไทม์ ผมจึงเริ่มเขียน “สกอร์” ให้กับโลโก้..

ตัวสกอร์นั้นเป็นโค้ดโปรแกรมภาษา C ขนาด 20,000 กว่าบรรทัด ตัวเอาท์พุทของโปรแกรมนี้ ไม่ใช่เสียงครับ หากแต่เป็นลำดับของพารามิเตอร์ที่คอยขับออสซิลเลเตอร์บน ASP อีกทีหนึ่ง ซึ่งโค้ดสองหมื่นกว่าบรรทัดจะสร้างประโยคสำหรับ “ตั้งออสซิลเลเตอร์ตัวที่ X ให้มีความถี่ Y Hz” อีกกว่า 250,000 บรรทัด!!

ตัวออสซิลเลเตอร์ก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างง่าย ๆ ครับ มันจะมี Smoothers แบบ 1 Pole คอยคุมให้แอมพริจูดและความถี่ไหลลื่น ไม่สะดุด ในตอนเริ่มเพลง ออสซิวเลเตอร์ทั้งชุดจะมีช่วงความถี่อยู่ที่ 200 ถึง 400 Hz โดยทั้งหมดจะเป็นการสุ่ม และมีการขยับความถี่ให้ขึ้นลงในย่านนั้นด้วยการสุ่มเช่นกัน และที่เวลาหนึ่ง (ที่โปรดิวเซอร์บอกผมว่าเป็นเวลาที่โลโก้ THX จะปรากฏขึ้นมา) ผมกวนความถี่ด้วยคอร์ดสุดท้ายลงไปใน Smoothers และตั้งค่า Smoothing Time ไว้ด้วย พอถึงเวลาที่โลโก้ขึ้นมาเต็มจอ ผมตั้งให้ค่า Smoothing Time ลดลงเป็นค่าที่ต่ำมาก ๆ เพื่อให้ความถี่แต่ละตัวมาบรรจบกันเป็นความถี่ของคอร์ด (ที่ผมพิมพ์ลงไปเองเลย ไม่ได้สุ่ม โดยใช้ความถี่รากที่ 150 Hz)

แต่การบรรจบกันนั้น ยังไม่แม่นยำพอที่จะสร้างเสียงบีทระหว่างออสซิลเลเตอร์ แล้วทั้งหมดจะเฟดออกไป ผมใช้เวลา 4 วันในการเขียนโปรแกรมและดีบักมัน แล้วเสียงจะสร้างขึ้นมาแบบเรียลไทม์บน ASP

และเมื่อถึงกระบวนการซิงค์เสียงเข้ากับวิดีโอ (ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้ดู) เราพบว่ามีการเหลื่อมของเวลาทั้งหมด ผมจึงปรับเวลาใหม่ สร้างสกอร์ชุดใหม่ภายใน 10 นาที เราจึงได้เสียงที่ซิงค์กันกับภาพอย่างลงตัวที่สุด

สกอร์ที่ผมเขียนขึ้นนั้น มีการสุ่มจำนวนขึ้นมาในหลาย ๆ ขั้นตอนมาก ๆ ซึ่งทำให้ทุก ๆ ครั้ง ที่ผมรันโปรแกรมตัวนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่เหมือนกันเลยในแต่ละครั้ง อันที่ผมเลือกนั้นเป็นตัวที่เด่นที่สุด ซึ่งทุกคนชอบ แล้วก็นำมันมาทำมาสเตอริ่งให้ได้เสียงที่ดังจริง ๆ อย่างที่เราได้ยินในหนัง (ซึ่งความดังของมันเป็นที่กล่าวถึงว่าอยู่ในระดับที่สามารถทำลายระบบประสาทการได้ยิน)

แล้วอีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น (หลังจากการเปิดตัวของ “Return of the Jedi”) พวกเค้าก็ทำเพลงต้นฉบับหายไป เดือดร้อนผมที่ต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่พวกเค้าก็บอกว่ามันให้เสียงไม่เหมือนเดิม เพราะว่าระบบการสุ่มตัวเลขที่ผมใช้ มาจากเวลาและวันที่เป็นคีย์ ซึ่งคงไม่สามารถจะสร้างใหม่ได้เหมือนเดิมอีกครั้งแน่ ๆ แต่ท้ายสุด ผมก็เจอต้นฉบับและทุกคนก็ดีใจที่ได้เสียงที่พวกเค้าต้องการอีกครั้ง

แอบดู Spectrum ของ Deep Note ด้วยโปรแกรม Baudline บน Linux

ซูมที่ 5 kHz

ในวันนี้ผมยังเก็บ “สกอร์’ เอาไว้อยู่ รวมไปถึงโค้ดโปรแกรมภาษา C ที่ใช้สร้างพารามิเตอร์ด้วย ตัวสกอร์นั้น ผมสามารถส่งให้คุณได้ (ถ้า THX อนุญาต เพราะมันมีลิขสิทธิ์อยู่) แต่ตัวโปรแกรมนั้น ผมให้ไม่ได้จริง ๆ ครับ

เครื่อง ASP นั้นปลดประจำการในปี 1986 และขายต่อเป็นเศษเหล็กไป จะเห็นว่าคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะแรงแค่ไหน ก็กลายเป็นขยะได้ในเวลาไม่กี่ปี ดังนั้นหากมีโอกาสได้ใช้ ก็จงใช้ให้คุ้มอย่างเต็มที่ครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทอมแห่ง Music Thing ผู้กล้าหาญ และแอนดี้ สำหรับพวกเราแล้ว คุณคือลูกผู้ชายตัวจริง!! ในตอนหน้า จะมีเรื่องราวดี ๆ ของเพลงสั้น มาฝากกันอีกครับ โปรดคอยติดตามว่าจะเป็นเพลงอะไร และเป็นเพลงที่คุณผู้อ่าน คุ้นเคยแค่ไหน รับรองว่าสนุกไม่แพ้เรื่องนี้แน่นอนครับ

บทความนี้ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร The Absolute Sound & Stage

2 ความคิดเห็น

newB Bass Enhancer จาก Crysonic

นี่เป็นอีกตัวที่ผมกำลังต้องการพอดีครับ newB คือเอฟเฟกต์ที่ช่วยสร้างเสียงย่านความถี่ต่ำให้กับมิกซ์ (บางผู้ผลิตอาจเรียก Subharmonic Synthesizer) หลักการทำงานง่ายนิดเดียว มี Highpass Filter ไว้กรองเสียงแยกออกจากกัน แล้ว newB จะทำการสร้างเสียงย่านที่ต่ำกว่าจุดตัดของ Highpass Filter ลงมา โดยเสียงที่สร้างขึ้นมาใหม่ อาจรวมกับของเก่า หรือจะแทนที่ทั้งหมดเลยก็ได้

ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะหาเวลามาเขียนโปรแกรมเอง แต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว สนใจติดต่อมาทางเมล์ได้เช่นเคยครับ

0 ความคิดเห็น

SINDO Stereo Image Expander

ขณะที่กำลังอ่านข่าวปลั๊กอินตัวนี้อยู่ ของก็มาถึงรัสเซียพอดี มันเป็นผลผลิตจาก Crysonic ผู้ผลิตน้องใหม่มาแรงจากออสเตรเลีย

SINDO จะช่วยแก้ปัญหา Stereo Image ที่กว้างเกินหรือแคบเกินไป โดยมีผลต่อเนื้อเสียงน้อยที่สุด ใช้ CPU น้อย ประมวลผลที่ 64 บิต ใช้ได้ในระบบ VST-Windows ราคา $26 หรือหากต้องการเวอร์ชันเพื่อการศึกษา ลองติดต่อมาที่ผมได้ครับ จะจัดส่งให้ทางอีเมล์

รายละเอียดเพิ่มเติม www.crysonic.com

1 ความคิดเห็น

DJ Mixer พร้อม Vocoder-Ring Mod

PMC-280Pro จาก Vestex เป็นดีเจมิกเซอร์แบบ 4 แชนแนล ที่น่าสนใจคือ DSP เอฟเฟกต์ อีก 16 ตัว ประมวลผลที่ความละเอียด 24 บิต/96 KHz ถือว่าเป็นฮาร์ดแวร์ DSP ที่สูงตามมาตรฐานปัจจุบัน (ขณะที่ดิจิตอลเอฟเฟกต์บนคอมพิวเตอร์เริ่มจะถีบหนีขึ้นไปเป็น 64 บิตกันเรื่อย ๆ)

เอฟเฟกต์ 2 ใน 16 ตัว นั้นคือ Vocoder กับ Ring Mod ซึ่งทาง Vestex อ้างว่าเป็นครั้งแรกที่เอฟเฟกต์สองตัวนี้ ถูกนำมาทำเป็นเอฟเฟกต์ยูนิตเพื่อดีเจโดยเฉพาะ (สงสัยว่า Vestex ไม่เคยเล่น KAOSS Pad หรือลืมไปว่าดีเจอาชีพแทบจะทุกคนที่เริ่มสร้างงานเพลงด้วยตัวเองอยู่แล้ว) ส่วนเอฟเฟกต์อื่น ๆ ก็เป็นตัวพื้นฐานทั่วไปครับ ไม่ว่าจะเป็น Digital Delay, Echo, Reverb, Flanger, Auto PAN, Phaser, Pitch Shifter, Vocal Canceller, Low Pass Filters, Band Pass Filters และ Hi Pass Filters โดยจะควบคุมได้ทีละ 2 พารามิเตอร์ผ่านปุ่มหมุน

และพัฒนาการสำคัญอีกอย่างคือ มีบอร์ด USB (ซื้อเพิ่ม) สำหรับต่อผ่านคอมพิวเตอร์ได้เลย ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นออพชั่นเสริมที่ดีเจมิกเซอร์สมัยใหม่ต้องมีครับ (ของ Mackie ใช้ FireWire)

ที่มา Sonic State

รายละเอียดเพิ่มเติม www.vestax.com

0 ความคิดเห็น

ของขวัญประจำเดือนกุมภาฯ

เป็น Sound on Sound ฉบับเดือนมีนาคม HTML Format ครับ PassionSoundian ท่านใดสนใจ แจ้งความจำนงมาที่ PHz at Passionsound.com ครับ

0 ความคิดเห็น

ทดลองของเล่นใหม่ Beatport Player

ที่มาที่ไปก็คือ ร้านขายเพลงออนไลน์อย่าง Beatport เปิดโอกาสให้ใครก็ตามที่มีเว็บไซต์-Blog ของตัวเอง สามารถเข้าไปสร้าง Beatport Player แล้วนำไปติดตั้งในเว็บของตัวเองได้ ผมเห็นว่าน่าสนใจดี เลยขอนำมาลองดูครับ มันคงใช้งานได้ดี แต่ติดปัญหาสำคัญคือ เราไม่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดเองได้ รวมไปถึงสีสันของมันด้วย สิ่งที่ผมต้องการอีกอย่างคือการนำเพลงของตัวเองขึ้นไปเล่นได้ด้วย จะเจ๋งมาก ๆ ใครสนใจ ลองไปทำเล่นดูได้ที่ http://www.beatportplayer.com

0 ความคิดเห็น

Deckadance จาก Image-Line ซอฟต์แวร์ DJ ตัวใหม่ขอท้าชนทุกตัวที่มี...

PassionSoundian หลายท่านในที่นี้ น่าจะเป็นแฟนขาประจำของ Image-Line อยู่บ้าง ซึ่งหลังจากปล่อยอัพเดทเวอร์ชัน 7 ออกมาแล้วก็เดินหน้าปล่อยซอฟต์แวร์ดีเจตัวล่าสุด Deckadance ตามมาครับ

ดูเหมือนว่า Features ต่าง ๆ ที่ขาดหายไปของซอฟต์แวร์ดีเจตัวอื่น ๆ จะถูกเติมเต็มเข้ามาใน Deckadance ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการทำงานแบบลุยเดี่ยว (Standalone) ไปจนถึงพ่วงไปกับลูกพี่ (Plug-in) หรือสามารถเป็นลูกพี่ได้เอง (VST Host: Synth-FX) บวกSampler อีก 8 ตัวที่สามารถ Sampling เสียงจาก Decks ได้เลย 6 อิน 12 เอาท์ ที่สำคัญยังสนับสนุนระบบ Vinyl Control ได้แทบทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น Final Scratch, Serato Scratch, MixVibes ไปจนถึง Ms Pinky vinyl หรือหากตัวไหนยังไม่มี ก็มีระบบสำหรับ Learn Vinyl Control ตัวใหม่ได้ด้วย 

นอกจาก Vinyl แล้วเรามาดู MIDI Control บ้างครับ มันสนับสนุน DJ Controller อย่างเต็มรูปแบบเช่นกันครับ ยกตัวอย่าง Behringer BCD2000, Hercules DJ Console, Hercules DJ Console Mk2, Eks XP10 Controller รวมไปถึงรุ่นอื่น ๆ ที่จะตามมาอีกในอนาคต ส่วนฟังก์ชันง่าย ๆ แต่จำเป็นอย่าง Auto-Sync ก็ยังคงมีมาให้เช่นกัน

และก็น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับชาว Mac ก็คือ เวอร์ชัน Mac อยู่ในช่วงพัฒนาอยู่ครับ โดยมีซินธ์ของ Image-Line อย่าง Poizone และ Toxic III ยกพลขึ้นบก Mac OS X ไปก่อนหน้านี้แล้ว สนับสนุนไฟล์ฟอร์แมทยอดนิยมอย่าง MP3 WAV OGG น่าเสียดายที่ไม่พ่วง FLAC เข้าไปด้วย ตัวซอฟต์แวร์ยังไม่วางจำหน่ายครับ แต่มีตัวสาธิตให้ดาวน์โหลดแล้ว

จับเอาแค่ Spec มาชนกัน DeckaDance น่าจะมีอนาคตที่สดใสครับ เพราะเป็นระบบเปิดต่ออุปกรณ์เชื่อมต่อมากกว่ารายอื่น ๆ แต่หากมีการจับอันดับโดยสื่อมวลชนต่าง ๆ ในปีนี้ Ableton Live ก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่งเหมือนเช่นทุกปีอีกครับ ไม่ใช่เพราะมันราคาแพงที่สุด หากแต่มันเปลี่ยนแนวคิดและรูปแบบของดิจิตอลดีเจ ส่วนระบบอื่น ๆ นั้น เป็นเพียงแค่การนำรูปแบบดั้งเดิมมาเปลี่ยนโดเมนเป็นดิจิตอลแค่นั้น...

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ DeckaDance Sneak Preview

ที่มา CDM

0 ความคิดเห็น

instrument: แขนกลเล่นดนตรี

หลังจากเข้าไปสำรวจเว็บของ RobotLab แล้ว กลับค้นพบว่ามีโปรเจกต์ที่น่าสนใจกว่า juke_bots อีก เป็นโปรเจกต์ที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า instrument ครับมันคือการนำเอาแขนกลมาเล่นดนตรี โดยเสียงของโน้ตมาจากการเคลื่อนไหวของแขนกล นั้นก็คือเสียงจากมอเตอร์ เพลา ข้อต่อ ฟันเฟืองนั่นเอง ฟังดู Passion มาก ๆ ข้อจำกัดอย่างเดียวที่เห็นคือการที่โน้ตแต่ละโน้ต มาจากการขยับแขน ทำให้การเล่นโน้ตเป็นไปอย่างช้า ๆ ถ้าคิดอีกแง่หนึ่งก็ถือว่าเป็นเสน่ห์ของมันเช่นกัน ว่าแต่มอยากเห็นมันล่นดนตรีเป็นวงแฮะ

ชมวิดีโอ

0 ความคิดเห็น

juke_bots: แขนกลจอม Scratch

ผลงานในปี 2001 ของ RobotLab เยอรมันครับ  juke_bots คือการนำแขนกลที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม มาทำการ Playback แผ่น Vinyl บน Turntable (Technic 1200) โดยจะทำการเลือกแผ่นที่เรียงอยู่รอบด้านของแขนกลที่มีอยู่ 11 แผ่น ที่น่าสนใจคือตัวแผ่นจะไม่ถูกวางบน Turntable ตรง ๆ แต่แขนกลจะจับมันไว้เพื่อให้สัมผัสกับ Stylus แล้วเล่นบนแขนกลเลย มันจึงมีความสามารถในการควบคุมความเร็วของการหมุนแผ่นหรือแม้แต่จะเล่นกลับหลัง (Reverse) ได้ด้วย แต่มันก็ทำได้แค่นั้น เพราะไม่ได้มีแขนกลสำหรับเล่นกับ Crossfader ทั้งตัวแขนกลยังมีราคาแพงมาก เหล่าดีเจจึงไม่ต้องกลัวตกงาน หากแต่ชมเพื่อความบันเทิงครับ สนุกมาก ๆ ผมชอบตอนที่มันทำท่าเหมือนกำลังรำมวยจีนน่ะ...

รายละเอียดเพี่มเติมที่ http://www.robotlab.de/juke/bots_engl.htm

ที่มา Future Music

0 ความคิดเห็น

[DIY] เพื่อการสังหารหมู่...

ไม่สนับสนุนให้เกิดการฆ่ากันนะครับ แต่ไอเดียของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ดีมาก ๆ ลองเข้าไปชมรายละเอียดได้ที่ pantip

เลยละกัน

0 ความคิดเห็น

[PassionSountrack] In Between-Terryl

คุณเต้ย Terryl ส่งมาให้ผมผ่านทางเมล์ครับ กับแทรคที่ชื่อ In Between การเรียบเรียงน่าสนใจครับ คาดไม่ถึงอยู่เสมอ หากการบันทึกเสียงมาดีกว่านี้ น่าจะส่งให้เพลงเด่นขึ้น โดยเฉพาะเสียงร้องซึ่ง ช่วงแรก ๆ เป็นลักษณะ Megaphone Effect (ไม่ทราบว่าจงใจออกแบบไว้อย่างนั้นหรือเปล่า) และดูแลเรื่อง Pitch ของเสียงร้องอีกนิด จะช่วยให้เพลงน่าฟังขึ้นอีกมากครับ ทำเพลงส่งมาฟังกันเรื่อย ๆ นะครับ ช่วงนี้ผมขี้เกียจมากในเรื่องของงานดนตรี อิอิ

Download as MP3.

0 ความคิดเห็น

MPEG Surround สู่มาตรฐานสากล

ในสมัยที่ผมศึกษาวิชา Multimedia Engineering มีคนกลุ่มหนึ่ง ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ของผม นั้นคือ MPEG ครับ (มาจาก Moving Picture Expert Group) พวกเค้าไม่ใช่กลุ่มคนหรือวงดนตรีที่มีสมาชิกไม่เกิน 5 คน หากแต่เป็นกลุ่มคนขนาดใหญ่นับร้อย จากสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยและบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ เหตุผลที่ชอบมีอยู่ 2 อย่างนั้นคือการตั้งชื่อกลุ่มอย่างหยิ่งยโส และผลจากการทำงานของพวกเค้า ก็พิสูจน์คุณภาพได้เป็นอย่างดี ด้วยมาตรฐานต่าง ๆ ของภาพและเสียงที่เราใช้กันในปัจจุบัน และล่าสุดที่ได้ประกาศเป็น International Standard ก็คือ MPEG Surround ครับ

พึ่งจะเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ในงาน 3GSM World Congress ที่บาเซโลน่า โดยบริษัทที่ร่วมพัฒนา 4 บริษัทอย่าง Agere Systems, Coding Technologies, Fraunhofer Institute for Integrated Circuits IIS และ Philips Applied Technologies

MPEG Surround เป็นมาตรฐานใหม่ที่ใช้สำหรับบีบอัดข้อมูลเสียงรอบทิศทาง ข้อมูลส่วนใหญ่เหมาะสำหรับนักพัฒนามากกว่านักดนตรีครับ แต่มีสาระสำคัญอยู่อย่างหนึ่งตรงที่การสนับสนุน Headphone Surround Sound คือการเข้ารหัสเสียงรอบทิศทางให้เหลือ 2 ช่องสเตอริโอ แต่ผู้ฟังยังคงรับรู้มิติเสียงรอบทิศทางอยู่ผ่านหูฟัง (เพราะถ้าไม่ใช้หูฟัง มิติจะเพี้ยนไป) ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับปลั๊กอิน Panorama ของ Wavearts ครับ ก่อนหน้านี้ ซอฟต์แวร์เล่นดีวีดีอย่าง Power DVD หรือ Win DVD ก็จะมีฟังก์ชันลักษณะนี้มาให้ใช้ด้วย แต่การที่ MPEG Surround ซึ่งเป็นมาตรฐานเปิด ทำแบบนี้ได้ ก็จะส่งผลให้ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เล่นมีเดียทั่วไป จะมีฟังก์ชันนี้มากขึ้น ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ก็จะได้รับความสะดวกในการรับฟังเสียงรอบทิศทางง่ายขึ้นเช่นกันครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ mpegsurround

ที่มา Future Music, Sonic State

0 ความคิดเห็น

อีกหนึ่ง Child Prodigy

พี่อ้นแนะนำจาก patid ครับ ขอบคุณพี่อ้น

1 ความคิดเห็น

10 อันดับยอดนิยมของซอฟต์แวร์ดนตรี

Digital Music Doctor ได้ทำการจัดอันดับโดยใช้ผลจาก Queries จาก Search Engine อย่าง Google, Yahoo, AOL และ MSN ในรอบ 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว

ตามเนื้อข่าวยังบอกว่าสิ่งที่น่าสนใจคือ Ableton Live ที่พาตัวเองเข้ามาติดอันดับในชาร์ตเป็นครั้งแรก โดยเบียด Apple Logic Pro ไปอยู่ที่ 11 แทนครับ

นำมาให้ดูกันสนุก ๆ นะครับ เพราะผมเองก็คิดอยู่เสมอว่า ไม่มีซอฟต์แวร์ตัวไหนดีที่สุด หากแต่จะเหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคนเท่านั้นเอง

ที่มา Future Music

3 ความคิดเห็น

หนังสือน่าอ่านตามห้องสมุดมหา'ลัยไทย

แอบสนทนากับเฮียวิทย์เล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องหนังสือในห้องสมุดจุฬา ฯ โชคดีที่มีผู้ใจดีอย่าง Prasanpanich แนะนำไว้ส่วนหนึ่งที่นี่ครับ

ขออนุญาติยกมาไว้ที่นี่ด้วยเลย

 

Title : A dictionary of electronic and computer music technology : instruments, terms, techniques / Richard, Dobson

Imprint Oxford : Oxford University Press, 1992

LOCATION CALL NO STATUS

LIMU-Reference ML102.E4 D635d 1992 LIB USE ONLY

Phys descr x,224 p.; 22 cm Subject Computer music -- Dictionaries

Electronic music -- Dictionaries ISBN 0193113449 Mahidol University

Title : Elements of computer music / F. Richard Moore

Imprint Englewood Cliffs, N.J. : Prentice Hall, 1990

LOCATION CALL NO STATUS

LIMU-General Stacks MT723 M821e 1990 CHK SHELVES

Phys descr xiv, 560 p. : ill. ; 24 cm. Bibliog. Includes bibliographical references

Subject Computer music -- Intruction and study Computer sound processing

ISBN 0132525526 Mahidol University

Title : Electronic and computer music / Peter Manning

Imprint Oxford : Clarendon Press, c1993

LOCATION CALL NO STATUS

LIMU-General Stacks ML1380 M284e 1993 CHK SHELVES

LIMU-General Stacks ML1380 M284e 1993 c.2 CHK SHELVES

Edition 2nd ed. Phys descr 399 p., [8] p. of plates. : ill. ; 23 cm.

Bibliog. Includes bibliographical references Subject Computer music -- History and criticism

Electronic music -- History and criticism ISBN 0198163282 Mahidol University

Title : Computers and musical style / David Cope

Imprint Madison, Wis. : [s.n.] ; 1991

LOCATION CALL NO STATUS

LIMU-General Stacks MT56 C782c 1991 CHK SHELVES

Phys descr xvii, 246 p. : music ; 24 cm.

Series The Computer music and digital audio series ; v. 6 Bibliog. Includes bibliographical reference

Subject Style, music -- Computer program Computer composition

ISBN 019816274X Mahidol University

Title : Microcomputers and music / Gary E. Wittlich, John W. Schaffer, Larry R. Babb

Imprint New Jersey : Prentice-Hall, 1986

LOCATION CALL NO STATUS

LIMU-General Stacks MT56 W832m 1986 CHK SHELVES

Phys descr xiii, 321 p. : ill. ; 25cm Babb, Larry R. ISBN 0135805155

Mahidol University

Title : The science of sound / Thomas D. Rossing

Imprint Reading, Mass. : Addison-Wesley, c1990

LOCATION CALL NO STATUS

LICL-General Stacks QC225.15 R835s 1990 CHK SHELVES

LICL-General Stacks QC225.15 R835s 1990 c.2 CHK SHELVES

Edition 2nd ed. Phys descr xv, 686 p. : ill. ; 24 cm. ISBN 0201157276 Mahidol University

http://www.physics.niu.edu/trossweb/Professor_Thomas_Rossing.html

Title : The physics of sound / Richard E. Berg, David G. Stork

Imprint Englewood Cliffs, N.J. : Prentice-Hall, 1995

LOCATION CALL NO STATUS

LISC-General Stacks QC225.15 B493p 1995 CHK SHELVES

Edition 2nd ed Phys descr xiv, 383 p. : ill. ; 25 cm ISBN 0131830473 Mahidol University

Title : Digital signal processing : a hands-on approach / Charles Schuler, Mahesh Chugani

Imprint Boston : McGraw-Hill, c2005

LOCATION CALL NO STATUS

LICL-General Stacks TK5102.9 S386d 2005 CHK SHELVES

Phys descr xv, 288 p. : ill. (some col.) ; 28 cm. + 1 CD-ROM (4 3/4 in.)

ISBN 0072945737 Mahidol University

Digital signal processing : a practical guide for engineers and scientists / by Steven W. Smith

Imprint Amsterdam : Newnes, c2003

LOCATION CALL NO STATUS

LIIC-General Stacks TK5102.9 S661d 2003 CHK SHELVES

Phys descr xiv, 650 p. : ill. ; 26 cm. + 1 computer optical disc

Note CD-ROM contains source code listings, problem sets, and an eBook version with full text search

ISBN 075067444x Mahidol University International College

Or find the free PDF at http://www.dspguide.com - The Scientist and Engineer's Guide to Digital Signal Processing. Very readable - low math - many examples

Title : Computer music : synthesis composition, and performance / Charles Dodge, Thomas A. Jerse

Imprint New York : Schirmer Books, c1985

LOCATION CALL # STATUS

CL 789.913 W749C CHK SHELVES

Descript xi, 383 p. : ill. ; 26 cm

ISBN 002873100x Marc CL Chulalonkorn University

Title : Computer music modeling and retrieval : International Symposium, CMMR 2003, Montpellier, France, May 26-27, 2003 : revised papers / Uffe Kock Wiil, ed. Imprint Berlin : Springer, c2004

LOCATION CALL # STATUS

CL 786.76 C738 CHK SHELVES

Descript x, 246 p. : ill. ; 24 cm. + 1 Computer optical laser disc (4 3/4 in.)

Series Lecture notes in computer science ; 2771

Computer Music Modeling and Retrieval Symposium (2003 : Montpellier, France)

ISBN 3540209220 Marc Chulalonkorn University

Title : Digital audio signal processing / Udo Zolzer

Imprint Chichester : John Wiley, 1999, c1997

LOCATION CALL # STATUS

Eng TK5102.9 Z65 CHK SHELVES

Descript 279 p ISBN 0471972266 Marc Chulalonkorn University

Title ; Musical signal processing / edited by Curtis Roads...[et al.]

Imprint Lisse [Netherlands] ;Exton, PA : Swets & Zeitlinger, c1997

Descript. xiii, 477 p. : ill ISBN 9026514832

LOCATION CALL # STATUS

Info Tech Lib MT56 M87 CHK SHELVES

King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang

Title : A DSP primer with applications to digital Audio and computer music / Ken Steiglitz

Imprint Menlo Park, CA : Addison-Wesley, c1996 Descript. 314p

ISBN 0-8053-1684-1

LOCATION CALL # STATUS

Main Lib TK5102.9 S71d CHK SHELVES

Engineering Lib TK5102.9 S71d CHK SHELVES

Industrial Education Lib TK5102.9 S71d CHK SHELVES

Info Tech Lib TK5102.9|bS74 CHK SHELVES

King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang

Title : The complete guide to digital audio : a comprehensive introduction to digital sound and music-making / Chris Middleton ; consultant editor Allen Zuk

Imprint East Sussex : Ilex, c2004

Descript. 192p. : ill ISBN 1904705146

LOCATION CALL # STATUS

Architecture Lib TK7881.4 M544c 2004 CHK SHELVES

CALL NO. 784.19028546 Ru938M

King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang

Computer music in C / Phil Winsor & Gene Delisa

Imprint Blue Ridge Summit, Pa. : Windcrest, c1991

Descript. xxv, 369 p.

ITEM LOC CALL # STATUS

BC, Main Stack QA76.73.C15 W5 CHK SHELVES

King Mongut's Institute of Technology North Bangkok

Music and schema theory : cognitive foundations of systematic musicology / Marc Leman

Imprint Berlin : Springer Verlag, c1995

LOCATION CALL # STATUS

Main, Circulation Dept. ML3838 LEM 1995 AVAILABLE

Main, Circulation Dept. ML3838 LEM 1995 c.2 AVAILABLE

Descript 234 p. : ill Series Springer Series in information sciences ; 31 ISBN 3540600213

Tone Semantics -- Pitch as an Emerging Percept -- Defining the Framework -- Auditory Models of Pitch Perception -- Schema and Learning -- Learning Images-out-of-Time -- Learning Images-in-Time -- Schema and Control -- Evaluation of the Tone Center Recognition Model -- Rhythm and Timbre Imagery -- Epistemological Foundations -- Cognitive Foundations of Systematic Musicology -- Orchestra Score in CSOUND -- Physiological Foundations of the Auditory Periphery -- Normalization and Similarity Measures

King Mongut's University of Technology Thonburi

ชื่อเรื่อง MIDI systems and control / Francis Rumsey.

พิมพ์ครั้งที่ 2nd ed. พิมพลักษณ์ Oxford ; Boston : Focal Press, 1994.

ลักษณะ xi, 202 p. : ill. ; 24 cm. ISBN 0240513703 สถาบันที่ทำรายการ

บาร์โค้ด เลขเรียกหนังสือ ชั้น สถานที่เก็บ ประเภทสื่อ สถานะ

32498001212628 784.19028546 Ru938M ชั้น 2 : ฝ่ายบริการสิ่งพิมพ์ (BKE) สำนักหอสมุด BK ตรวจสอบที่ชั้น

Burapha University

The Csound book [electronic resource] : perspectives in software synthesis, sound design, signal processing, and programming / edited by Richard Boulanger.

พิมพลักษณ์ Cambridge, Mass. : MIT Press, c2000.

เลขหมู่ : MT723 .C77 2000eb สถานที่ : Online E-Book รูปเล่ม : xli, 740 p. : ill. ; 23 cm.

หมายเหตุ : Includes bibliographical references (p. [645]-646), discography (p. [647]-651), and index.

Electronic reproduction. Boulder, Colo. : NetLibrary, 2001. Available via World Wide Web. Access may be limited to NetLibrary affiliated libraries. Excludes the content of the material which accompanied the original book.

NetLibrary, Inc. ISBN 058534342X (electronic bk.)

Khon Kaen University

The Csound Book

Perspectives in Software Synthesis, Sound Design, Signal Processing,and Programming

Edited by Richard Boulanger

March 2000, 782 pp., 725 illus. + 2 CD-ROMs $60.00/£45.95 (PAPER)

ISBN-10:0-262-52261-6 ISBN-13:978-0-262-52261-8

 

ความรู้เหล่านี้มีประโยชน์มาก ถ้าให้อ่านทั้งหมดคงไม่ไหว หากใครพบว่าหนังสือเล่มไหนมีประโยชน์ก็สามารถนำมาแนะนำกันได้ครับ

และขอขอบคุณมาก ๆ

2 ความคิดเห็น

CSIRAC คอมพิวเตอร์มิวสิคเครื่องแรกของโลก

ในช่วงเริ่มแรกที่ผมศึกษาคอมพิวเตอร์มิวสิคจากตำราซึ่งทั้งหมดมาจากฝั่งอเมริกา จึงมีการกล่าวยกย่อง Max Mathews แห่ง Standford University ผู้เขียนโปรแกรม Music ว่าเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดคอมพิวเตอร์มิวสิค แต่พอศึกษามากขึ้น กลับพบว่า คอมพิวเตอร์มิวสิคครั้งแรกจริง ๆ นั้น เกิดขึ้นที่ออสเตรเลียครับ แล้วคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่เล่นดนตรีได้คือ CSIRAC และแม้ว่าเสียงของมันยังออกมาสาก เมื่อเทียบกับมาตรฐานเพลงอิเล็กโทรนิกส์ในยุค 50 แต่ก็ถือว่าล้ำหน้าไป 2-3 ปีแล้วในเวลานั้น

มีบทความเกี่ยวกับ CSIRAC จาก Computer Music Journal มาฝากด้วยครับ คัดมาจาก Spring 2004 Issues

ที่มา musicthing

0 ความคิดเห็น

แอพเปิ้ลหัวหอกปลดปล่อย DRM

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวดังเกี่ยวกับแวดวงอุตสาหกรรมดนตรีเกี่ยวกับเรื่อง DRM โดยบทสัมภาษณ์ของสตีฟ จ๊อบส์ที่ว่าทางแอพเปิ้ลพร้อมเสมอสำหรับการปลด DRM ออกจากเพลงที่ขายผ่าน iTunes หากเพียงแต่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 ยินยอมเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ทาง Warner ก็เป็นค่ายแรกที่ออกมาค้าน แต่ค่ายเพลงอย่าง EMI เห็นด้วย และล่าสุดคือ Yahoo Music ครับ

โดย Dave Goldberg ผู้จัดการของ Yahoo Music ให้สัมภาษณ์ว่าค่ายเพลงเริ่มเข้าใจว่า DRM ไม่มีประโยชน์ และมีแนวโน้มจะปลด DRM กันมากขึ้น ล่าสุดคือ EMI ได้เจรจากับบริการขายเพลงคู่แข่งของ iTunes หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Napster หรือ Yahoo Music ที่จะขายเพลงแบบไม่มี DRM

เรื่อง DRM นั้น พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีผลเสียโดยตรงกับผู้ที่ตั้งใจเสียเงินสนับสนุน ทั้งยังไม่ได้ช่วยป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด PassionSound ขอสนับสนุนการปลดปล่อย DRM อีกแรงครับ

ที่มา blognone, sonicstate

อัพเดท RS ค่ายเพลงไทยออกมาอ้างว่าหลังจากยกเลิกขายที่มี DRM กลับพบว่ามียอดสูงขึ้น 30% (จากผู้จัดการ) และตอนนี้ HD-DVD, Bluray ถูกเจาะอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยแฮคเกอร์จาก Doom9 ต่อไปจะมีโปรแกรมริป HD-DVD ออกมาให้ใช้อย่างแพร่หลายแน่นอน สิ้นสุด DRM แห่งมีเดียยุคใหม่และอีกอย่างน้อย 5 ปีจากนี้ไป (จาก blognone เจ้าเดิม)

2 ความคิดเห็น

[Passion Book] Real World Digital Audio

ผมซื้อหนังสือเล่มนี้เพื่อเป็นการตอบแทน Peter Kirn แห่ง CDM ที่อัพเดทและวิเคราะห์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ให้ผมได้ติดตามอยู่ตลอด แม้ว่ามันเป็นเพียงเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่นิวยอร์ก แต่หากเทียบเป็นเงินไทย เงิน 2339 บาทก็เป็นค่าอาหารกลางวันทั้งเดือนเหมือนกัน (นะ) หรือถ้าหากเอาไปเทียบกับใครแถวนี้ ที่ใช้เงินจำนวนเดียวกันเพื่อการอาบน้ำหนึ่งครั้ง ก็ไม่น่าคิดมากเท่ากับการซื้อหนังสือหนึ่งเล่มครับ อิอิ

เนื้อหาส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่ผมพอจะเข้าใจมาก่อนแล้ว ผ่านการอ่านตำราต่าง ๆ และทดลองทำด้วยตัวเอง แต่การได้เป็นเจ้าของมัน ก็ยังมีประโยชน์ในการเป็นอีกหนึ่งแหล่งอ้างอิงได้ด้วยครับ ดังนั้นเงินที่จ่ายไปก็น่าจะคุ้มค่าเช่นเดียวกัน

ผมได้อ่านรีวิวอย่างละเอียดจาก Matrixsynth มาก่อน แล้วเคยไปตามหาที่ร้านคิโนคูนิยะ ในตอนนั้นยังไม่มี แต่เค้าบอกว่าจะสั่งมาให้ ไปถามดูอีกครั้งหลังซื้อหนังสือ VJ จึงได้มันมา ตอนนี้ยังไม่อ่านมันครับ เพราะพึ่งได้มาไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเอง แต่ขอ Overview เนื้อหามันก่อน เผื่อว่าจะใครที่สนใจจะได้ไปหาซื้อมาอ่านบ้าง (พร่ามมา 3 ย่อหน้า แต่ก็ยังไม่เข้าสู่ภายในหนังสือซักที อิอิ ขอท้าวความหน่อยแล้วกันครับ มีความหลังกับมันเยอะ)

เรื่องราวก็ครอบคลุมตั้งแต่ความเข้าใจเสียงในระบบดิจิตอล การเลือกเครื่องมือมาใช้ การเซตระบบทำงาน การปรับแต่งคอมให้เหมาะสมกับงานเสียง การทำเพลงอย่างง่ายด้วยแพทเทิร์นและลูป การบันทึกเสียง การโปรเซสเสียงด้วยเอฟเฟกต์ ระบบ MIDI Note และ Physical Control การสังเคราะห์เสียงและซอฟต์แวร์อินสตรูเมนต์ (เรื่องนี้ถือเป็นไฮไลต์เลย เพราะทำมาได้ร่วมสมัยกว่าหนังสือใด ๆ ที่เคยอ่าน และยังลงลึกมากพอให้สะใจวัยรุ่นอีกด้วย) การเรียบเรียง มิกซ์และทำมาสเตอร์ การผลิตสกอร์เพลง การทำเสียงและดนตรีประกอบวิดีโอ การแสดงสด

จะเห็นว่าเหมาะกับมือใหม่และคนที่ต้องการทำความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ให้ดีขึ้น แม้ว่าราคาจะแพงไปเสียหน่อย แต่ผมขอแนะนำครับ

ยังมีหนังสือด้านการทำงานเพลงบนคอมพิวเตอร์สำหรับมือใหม่ ที่มีอาร์ตเวิร์กสี่สีสวยสด งดงามมาก ๆ ที่ร้าน Asia Book สาขา Central World ตอนนั้นผมไม่เห็นเหตุผลที่จะซื้อมัน แต่ตอนนี้อยากได้มันมาดูอาร์ตเวิร์ก เพราะกำลังทำงานชิ้นใหม่เป็น Editor ให้กับหนังสือเล่มหนึ่งพอดี ถ้าใครเจอและซื้อมันมา ก็นำมารีวิวกันได้ครับ หรือรอได้ ผมจะนำมันมารีวิวให้ชมเช่นกัน

สำหรับ Real World Digital Audio ขอเวลาผมได้อ่านอีกซักพัก จะนำมารีวิวอีกทีอย่างละเอียดครับ

3 ความคิดเห็น

[Passion Book] VJ audio visual art and vj culture

น่าจะเป็นคราวโชคดีของผม ที่บังเอิญลูกค้านัดเจอที่ร้านคิโนคูนิยะที่พารากอน แล้วบังเอิญอีก ที่ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากร้าน พลันสายตาเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่ง วางอยู่รวม ๆ กับหนังสือแนว Creative Art อื่น ๆ เลยสอยมาทันทีโดยไม่แม้แต่จะเปิดอ่าน เพราะเปิดไม่ได้ หรือไม่ได้อ่านแม้กระทั่งรีวิวจาก amazon 1625 บาท

เนื้อหาเขียนโดยวีเจหลาย ๆ ท่านครับ ที่ชอบมาก ๆ หลังจากเปิดผ่าน ๆ คือการวางเลย์เอาท์และอาร์ตเวิร์ก งดงามหมดจด เรื่องเนื้อหา ผมขอเวลาอ่านก่อนที่จะนำมารีวิวอีกครั้งนะครับ ขอนำภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ มายั่วน้ำลายกันก่อน

ภาพสุดท้าย สังเกตดี ๆ จะเห็น Jitter Patch วางเป็นแบ็คกราวน์จาง ๆ อยู่

อัพเดท : ที่ amazon มีระบบให้เราพรีวิวด้วย ที่นี่

2 ความคิดเห็น

ฉลอง 20 ปี Audio Coding

ปี 2007 นี้ ใคร ๆ เค้าอาจบอกว่าเป็นปีหมูทอง หมูไฟ แต่ที่ Fraunhofer Institute for Integrated Circuits IIS (อ่านชื่อเต็มอาจไม่คุ้น ลองอ่านเฉพาะคำแรก อาจเป็นคำที่สาวก encode mp3 คุ้นเคย) เค้าบอกว่าเป็นปีครบรอบ 20 ปีแห่ง Audio Coding ครับ

เพราะย้อนกลับไปยังเดือนมิถุนายนปี 1987 มีกิจกรรมหนึ่งเกิดขึ้นที่ Fraunhofer IIS ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งนำร่องให้เกิด mp3 ในปัจจุบัน นั้นคือการทดลองบีบอัดข้อมูลเสียงด้วยเทคนิคเรียกว่า Low Complexity Adaptive Transform Codec ตัวย่อ LC-ATC จนประสบผลสำเร็จในแบบ Realtime เพราะก่อนหน้านี้การทำแบบนี้ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง แม้จะใช้คอมพิวเตอร์แรงสุด ๆ ในสมัยนั้นแล้วก็ตาม ซึ่งผลจากการทดลองนี้ ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนเกิดมาตรฐาน MPEG Layer-3 หรือที่รู้จักกันในชื่อ mp3 ตามมาในปี 1992 ครับ

ซึ่งการเฉลิมฉลองของ Fraunhofer ก็คือ จัดทำ Videocasts เกี่ยวกับเรื่องนี้ เผยแพร่ทาง www.iis.fraunhofer.de โดยทำเป็นซีรี่ย์ ปล่อยทุก ๆ 2 อาทิตย์และไฮไลท์จะอยู่ที่วันที่ 25 เดือนพฤษภาคมครับ

ในวันนี้ Fraunhofer IIS เป็นศูนย์วิจัยด้าน Audio Coding ระดับแนวหน้าของโลก ซึ่งนับจาก MP3 ไปสู่ MPEG AAC วิศวกรของ Fraunhofer IIS ก็ยังคงวุ่นอยู่กับการพัฒนาอัลกอรึทึ่มใหม่ ๆ ในการบีบอัดสัญญาณเสียงรอบทิศทางเพื่อให้ได้ Bit Rates ที่ต่ำทีสุดต่อคุณภาพสูงสุด (mp3 Surround and MPEG Surround) ทั้งยังวิจัยในด้าน Digital Right Management, เทคโนโลยีโทรคมนาคม, digital broadcasting และ video coding อีกด้วยครับ เราจึงพูดได้อย่างเต็มปากว่า Fraunhofer IIS เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีอิทธิพลต่อโลกมัลติมีเดียของวันพรุ่งนี้เลยทีเดียว

ว่าแต่...เหล่าค่ายเพลงจะอยากเฉลิมฉลอง Audio Coding กับเค้าหรือเปล่าครับ...?

ที่มา Sonic State

0 ความคิดเห็น

[ถาม PassionSound] White Noise, Pink Noise, Convolution..?

อยากจะเขียนคำตอบยาว ๆ แต่เกรงว่าไม่เสร็จซักที :P

เอาคำตอบสั้น ๆ ไปก่อนนะครับ เน้นเข้าใจแบบรวบรัด เอาไปใช้งานได้ทันที

White Noise เป็นสัญญาณสุ่มที่มีกำลังของสัญญาณในสเปคตรัมเท่า ๆ กันหมด (ที่ 20 kHz ก็จะมีกำลังสัญญาณเท่ากับที่ 20 Hz)

ต่างจาก Pink Noise ที่กำลังสัญญาณจะลาดลง 3 dB/ Octave ครับ หรือกำลังของมันเป็นส่วนกลับของความถี่ คือ 1/f ความถี่ยิ่งมากกำลังสัญญาณจะยิ่งน้อยมากถึงไม่มีเลย

ที่เค้าเรียกว่า White หรือ Pink ก็เพราะว่าสเปคตรัมของมันจะมีลักษณะเดียวกับสเปคตรัมของแสงสีนั้น ๆ ครับ ยังมี Noise สีสันต่าง ๆ ให้เลือกใช้อีก

ส่วน Convolution เป็นตัวกระทำคณิตศาสตร์รูปแบบหนึ่ง เช่นเดียวกับบวกลบคูณหาร แต่ซับซ้อนกว่า ถ้าไม่ชอบคณิตศาสตร์ก็ให้สนใจว่านักดนตรีใช้มันทำอะไรบ้าง หากเรานำเสียง 2 เสียงมาทำ Convolution กัน เราจะได้ผลลัพธ์คือการผสมผสาน Spectrum กัน บางที่อาจเรียกว่า Cross-Synthesis หรือ Spectrum Morphing ก็ได้ ในสมัยนี้ยังนิยม Convolution Reverb ซึ่งมันก็คือการทำ Convolution กันระหว่างเสียงอินพุทกับ Impulse Response-IR ซึ่งคือเป็นตัวแทนของ Reverberation ครับ ผลลัพธ์จะออกมาดีมาก ๆ หาก IR บันทึกมาอย่างดี ใสสะอาดครับ

0 ความคิดเห็น

แอบดู "เครื่อง" ของ NIN

 

จากฟอรั่มของ KVR ครับ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในอัลบั้มล่าสุด Year Zero ปีเตอร์แห่ง CDM แอบแหนบอย่างแสบ ๆ ว่า "ไม่ว่าคุณจะมีของเล่นมากแค่ไหน หรือเห็นเครื่องดนตรีไฮเทคมากเท่าใด Nine Inch Nails ก็จะมีมากกว่าเสมอ..."

รายละเอียดเพิ่มเติม http://yearzero.nin.com/

หรืออ่าน Scoop ย้อนหลังจาก CDM ได้ที่

Hotel Room Studio: NIN’s Rack-Mounted Dual G5s

Inside NIN’s Studio on Audiohead

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอหยิบภาพมาลงด้วยแล้วกันครับ จะได้ดูทีเดียว

0 ความคิดเห็น

blog ของ PassionSoundian

ช่วงนี้ผมเอง ขายวิญญาณให้กับความชั่วร้ายอยู่ (Money is a root of all evil.) เลยไม่ค่อยมีเวลาอัพเดทข่าวสารกันเท่าไร

แต่ก็ยังติดตามข่าวสารอยู่ตลอดหากมีโอกาส วันนี้ถือโอกาสดีที่จะมาแนะนำ Blog ของ PassionSoundian สามท่านครับ

อันแรก Sound Desire ของเฮียวิทย์ ซึ่งจะครอบคลุมเรื่อง Sound Desire, Game Audio, Audio Tech เป็นอีกหนึ่งเว็บที่ผมติดตามอ่านทุกวัน (Subscribe ไว้แล้ว)

ส่วนอีกอันเป็นของนักเขียนบทความที่มีคนอ่านสูงสุดของ PassionSound- Prasanpanich สิ่งที่น่าสนใจมีอยู่สองส่วนครับ คือดนตรีกับแหล่งรวม Link ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งก็เป็นเรืองที่โดนทางของ PassionSound เองอยู่แล้ว

สุดท้ายเป็นของนักดนตรี jazz นักทดลอง computer music อย่าง kijjaz ครับ มีเพลงที่ทดลองบนโปรแกรม ChucK มาให้ฟังกันด้วย ลองคลิกเข้าไปชมหรือฟังกันได้

PassionSoundian ท่านอื่น ๆ สนใจเกี่ยวกับการทำ Blog เพื่อการแชร์ข่าวสาร ดนตรี ข้อมูลส่วนตัว สามารถไปเซตอัพ Blog อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ตามเว็บอย่าง blogspot.com, multiply.com, myspace.com ซึ่งที่ยกตัวอย่างมา 3 ท่าน ต่างก็ใช้พื้นที่ blog ที่ยกตัวอย่างมาเช่นกัน

หรือหากรอได้ passionsound เอง ก็กำลังเข้าสู่ web 2.0 เต็มตัวในวันครบรอบหนึ่งปีที่จะถึงนี้ครับ (ซังกำลังหัวปั่นกับการทำส่วนนี้อยู่) ถึงตอนนั้นก็จะสามารถมี blog ส่วนตัวที่ passionsound เช่นกัน

 อัพเดท: ของ DIY มีสองที่ http://www.iamdiy.org กับ http://www.myspace.com/iamdiy ใครมี...? ลองลง link ไว้ได้เลยครับ

ของ ohm4u มีอีกสองครับ http://ohm.63club.com และ http://ohm4u.multiply.com

9 ความคิดเห็น

คีย์บอร์ดเลโก้??

นี่คือคีย์บอร์ดที่มีปุ่มทั้งหมด 1688 ปุ่ม ชื่อเต็มของมันก็คือ The Tonal Plexus ที่มันมีปุ่มเยอะขนาดนี้ก็เพราะว่ามันเป็นคีย์บอร์ดที่แบ่งเสียงหนึ่งออคเตฟออกเป็น 211 คีย์!! แทนที่จะเป็นแบบ 12 คีย์ต่อออคเตฟแบบที่เราคุ้นเคยกัน หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่ามันเป็นคีย์บอร์ดแบบไมโครโทนอล (Microtonal) นั่นเองครับ ใช้เวลาออกแบบและพัฒนาทั้งหมด 8 เดือน แล้วจะเริ่มชิปในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ในราคาเริ่มต้น $1292

ตัวต่อเลโก้หรือเครื่องดนตรี..?

ถ้าสนใจ แนะนำว่าเข้าไปชมวิดีโอสาธิตการเล่นจากเว็บของผู้ผลิตที่ www.h-pi.com จะเข้าใจมันได้ดีกว่านะครับ ซึ่งทางผู้ผลิตเอง ก็ทำอุปกรณ์อื่นมาสนับสนุนนักดนตรีที่อยากทดลองระบบการจูนแบบต่าง ๆ เช่นซอฟต์แวร์ Notation หรืออุปกรณ์ MIDI ที่มาช่วยการจูนเสียงอย่าง TBX-1 The Tuning Box (ราคา $350) ที่สามารถจูน MIDI Controller ทุกตัวบนโลก ไปเป็นระบบการจูนของเราได้อย่างง่าย ๆ อีกด้วย

TBX-1

น่าจะเหมาะกับ prasanpanich นะ...

ที่มา CDM

0 ความคิดเห็น

Sampler ของ Digidesign

ยอมรับว่าอะไรที่ตัวเองไม่ได้ใช้ ก็มักจะให้ความสำคัญในการนำมาบอกเล่าสู่กันฟังน้อยตาม โชคดีที่เฮียวิทย์แห่ง sound desire นำข่าวของค่ายนี้มารายงานกันอยู่เสมอ

 

Struture เป็น Sampler แบบ RTAS ที่ดูคร่าว ๆ จาก GUI แล้วนั้น น่าใช้และใช้ง่ายมาก หยิบข้อดีของ Sampler สมัยใหม่อย่าง Built-in Effect โดยเฉพาะ Convolution Reverb แบบ 5.1 และ Rompler สุดฮิตอย่าง Hypersonic โดยนำอินเตอร์เฟสที่ใช้ง่ายของ Hypersonic ของทาง Steinberg มา

แอบเห็นสัญลักษณ์ air-advance instrument research หวังว่าคงไม่ใช่กลุ่มเดียวกับที่เราคุ้นเคยบน Cracking Scene นะ อิอิ

รายละเอียดเพิ่มเติม digidesign

ที่มา Sound Desire

0 ความคิดเห็น

ภาพ live set ของ ninja tune 2006 world tour

DIY ส่งมาทาง Forum  ครับ แม้ไม่ใช่แฟนขาประจำ แต่ผมก็ชอบดนตรีของค่ายนี้ ที่มีเอกลักษณ์พิเศษมากมาย อย่างล่าสุด ผมได้ดื่มด่ำงานของ Amon Tobin จาก Interactive Soundtrack ของ Splinter Cell 3 มาหมาด ๆ ลองชมภาพทั้งหมดได้ที่ http://www.flickr.com/photos/cold_cut/

ขอบคุณ DIY

 

DIY Comment: สายพันกันนัวเนียเลย วัน meetingของ passionsound จะประมาณนี้มั้ยนะ

PHz Comment: Ableton Live!!

0 ความคิดเห็น

[เก็บตก NAMM 2007] SoundAbout: Extension สุดเจ๋งบน MacOS

อยากจะอธิบายสรรพคุณ แต่คิดว่าดูวิดีโอสาธิตจะเข้าใจง่ายกว่ามาก ๆ ครับ

ใบ้ให้หน่อย...?

มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานเสียงของเราให้ไหลลื่นยิ่งขึ้น เราค้นหาเพลงบน Finder แค่เลือกชื่อ จะมีหน้าต่างพรีวิวเพิ่มมาด้านล่าง เพื่อแสดงเวฟฟอร์มของเสียงนั้น อยากตัดบางช่วงออกมาใช้ แปลงเป็น MP3 แล้วส่ง Email ไปให้เพื่อนได้ทันที!! ที่ชอบที่สุดคือการตัดเสียงอย่างเร็วนี่ล่ะ สะดวกในการทำงาน Post มาก ๆ

ผู้ผลิตคือ Audio Ease พึ่งรู้ว่าฐานทัพอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ คนทำซอฟต์แวร์ดนตรีจากฝั่งยุโรปเจ๋งเป็นบ้าเล้ยยย

ที่มา http://www.otheroom.com/namm/techno.html

0 ความคิดเห็น

ของแปลกที่ NAMM 2007

ทุกปี Barry Wood จะไปเก็บภาพของแปลกงาน NAMM แล้วนำมาโพสต์ไว้ที่ NAMM Oddities ปีนี้ก็เช่นเคยครับ ลองเข้าไปดูกันได้ ผมว่านี่เป็นสกู๊ปงาน NAMM ที่สนุกที่สุดเลยล่ะ

ที่มา MusicThing

0 ความคิดเห็น