passionsound: January 2007

Jan 31, 2007

[Tutorial] สำหรับ Publisher มือใหม่

Jan 30, 2007

YouTube มีแผนจะแชร์รายได้ให้กับผู้ใช้

นักดนตรีและนักสร้างสรรค์ Digital Content ทั้งหลาย อาจมีอนาคตที่สดใสอีกครั้งครับ เนื่องจาก Web 2.0 กำลังจะเปลี่ยนโฉมรูปแบบการบริโภคข่าวสารใหม่หมดจด และอาจเป็นหนทางในการหารายได้แบบใหม่ หลังจากยุคเทป ซีดี (เถื่อน) เนื่องจาก Chad Hurley หนึ่งในผู้ก่อตั้ง YouTube ได้กล่าวไว้ใน Davos Economic Forum ว่า "YouTube มีผู้ใช้ (ทั้งผู้ชมและผู้ส่งเนื้อหา) ที่มากพอที่เราจะผลักดันความคิดสร้างสรรค์ด้วยการแชร์รายได้ให้กับพวกเค้า" โดยจะเริ่มโปรแกรมนี้ในเดือนถัดไป ส่วนรายละเอียดยังเป็นที่สงสัย (ของพวกเรา)

ที่มา maxxomedia, http://www.msnbc.msn.com/id/16842857

ถ้าโปรแกรมนี้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่จะมีผลต่อคนสร้าง Content เท่านั้น แต่อาจเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจของวงการนี้เป็นอีกรูปแบบหนึ่งแบบเดียวกับที่ iTunes ทำสำเร็จมาก่อนน่าแล้ว เพียงแต่คราวนี้ไม่ใช่แค่เจ้าของรายใหญ่รายเดียว หากทุกคนก็สามารถมีสิทธิที่จะเข้ามามีเอี่ยวกับธุรกิจนี้ได้พอ ๆ กัน และการเปิดค่ายเพลงเอง ก็จะสามารถทำได้ง่ายกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่เสียอีกครับ

0 ความคิดเห็น

Jan 29, 2007

โลกจะมีเสียงมั้ยครับ ถ้าทั้งโลกไม่มีสัตว์..?

เป็นคำถามที่ผมบังเอิญไปพบที่ห้องหว้ากอ เว็บ Pantip ซึ่งหลังจากที่อ่านแค่คำถาม ผู้เขียนก็คิดในใจแบบไม่ตรึกตรองว่า "มี" เป็นมุมมองจากแหล่งกำเนิดเสียง ที่ไม่จำเป็นต้องมาจากสัตว์เสมอไป แต่หากเราพิจารณาถึงผู้รับรู้เสียงแล้ว คำตอบคือ "ไม่มี" ครับ เนื่องจากเสียงเป็นการสร้างสรรค์จากระบบประสาทสัมผัสของผู้รับซึ่งเป็นสัตว์เท่านั้น "ไม่มีสัตว์ จึงไม่มีเสียง" เพราะคลื่นในอากาศมันก็เป็นเพียงคลื่นชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับแสง มันต้องการสิ่งมีชีวิตมาระบุว่ามันคือเสียงหรือแสง ขอยกคำตอบอย่างละเอียดของคุณปัจจตังมา ณ ที่นี่ด้วยครับ

ไม่มีครับ
คำถามนี้ นีล บอร์ห เคยถามไอน์สไตน์ ตอนแรกไอน์สไตน์ก็ตอบว่ามี เพราะถึงไม่มีมนุษย์ เสียงมันก็มีอยู่ก่อนแล้ว นีล บอร์ห บอกผิด เกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรง แต่หลังจากนั้น ไอน์สไตน์กลับไปครุ่นคิดอยู่หกเดือน แล้วก็กลับมาขอโทษ ที่เข้าใจผิด
ชีวิต โลก และ เวลา คือสิ่งเดียวกันครับ ไม่มีสิ่งใดเป็นจริงเลย ทฤษฎีสัมพัทธภาพก็บอกเช่นนั้น ก่อนมีทฤษฎีนี้เชื่อกันว่า ถ้าสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างพากันสูญหายไปจากจักรวาล ก็จะเหลือแต่เวลาและห้วงอวกาศอันเวิ้งว้าง แต่จากทฤษฎีสัมพัทธภาพ พิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่า เวลา และห้วงอวกาศอันเวิ้งว้างก็จะหายไปด้วย (ก็คือไม่มีอะไรอยู่จริงเลย)
ถ้าจะถามว่า เกิดไม่มีสัตว์ ไม่มีมนุษย์เกิดมาบนโลกนี้เลย ถามว่า กลิ่น จะมีอยู่จริงหรือไม่
คำตอบก็เหมือนเสียง คือไม่มี ที่มันมีก็เพราะการสรรสร้างของระบบประสาทสัมผัส
ทุกอย่างเป็นปรมัตถ์ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ล้วนเป็นสมมติบัญญัติ ความจริงแท้ของจักรวาลไม่มีสิ่งเหล่านี้
ในความฝัน เราก็ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ได้สัมผัส ทั้งๆที่มันก็ไม่มีอยู่จริง แต่ทำไมเรารู้สึกได้เหมือนจริง
เรื่องนี้จะเข้าใจยากสักนิด แต่เมื่อใดที่เกิดปัญญาญาน จะเข้าใจด้วยตนเองอย่างถ่องแท้

ปัจจตัง

ให้คำตอบที่ดีทีเดียว สิ่งเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณปัจจตังก็คือ เรื่องนี้ไม่ได้เข้าใจยากเลย แค่เรามองปัญหาไปที่ "ผู้รับเสียง" แทนที่จะมองว่าเสียงเกิดขึ้นได้อย่างไร...เท่านั้นเองครับ

0 ความคิดเห็น

Jan 28, 2007

[เก็บตก NAMM 2007] ซินธ์ตัวใหม่บน Reason

ช่วงนี้ หลังจากตื่นนอนขึ้นมา สิ่งแรกที่ทำคือดูว่า Sound Desire Feed ข่าวใหม่มาหรือเปล่า..? (ดีใจครับที่ได้อ่านข่าวแบบนี้เป็นภาษาไทย เฮียวิทย์อัพเดททุกวันด้วยครับ อิอิ ) แล้วก็เจอข่าวที่น่ายินดีสำหรับคนรัก Reason อย่างผมครับ นั่นคือ "THOR" ซินธ์ตัวใหม่ที่จะมาอินทีเกรดกับ Reason นั่นเอง

แม้ Propellerhead ต้นสังกัดจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่น นอกจากรูปและเสียงสาธิต แต่เท่าที่มีให้เห็นนั่นก็เกือบหมดทุกอย่างของมันแล้ว มันคือ Subtractive Semi-Modular Synth ที่จะมาแทน Subtractor เพราะมีจุดต่างอย่าง Wavetable Oscillator ซึ่งซินธ์รุ่นหลัง ๆ อย่าง Massive-Zebra ต่างก็ติดฟังก์ชันนี้ ลองสังเกตโมดูลที่มีน๊อตให้ดีนะครับ มันน่าจะเป็นโมดูลที่สามารถสลับสับเปลี่ยนกันได้ (Replacable) เพราะแอบเห็นโมดูล Filter 3 ที่ถูกบายพาสเพราะไม่ได้มีอะไรไปใส่นั่นเอง โดยปุ่มสามเหลี่ยมทางซ้ายของแต่ละโมดูลจะเป็นตัวเลือกเปลี่ยนไปใช้โมดูลอื่น

ต่อมาคือระบบ Wireless Modulation ตามสมัยนิยม พร้อม Step Sequencer ซึ่งจุดขายอย่างแรกสำหรับผมคือการที่มันเข้าใจง่าย ใช้ได้ทันที แม้แนวคิดทั้งหมดจะไม่ได้มีอะไรใหม่จริง ๆ แต่ต้องยอมรับว่า Reason เป็นซอฟต์แวร์ปิดที่เราไม่สามารถรันปลั๊กอินตัวอื่น ๆ ได้ การที่ Reason จะใส่ THOR ลงในเวอร์ชันใหม่ที่กำลังจะออก จึงถือเป็นเรื่องดีครับ อย่างน้อยเราจะได้ผสมผสานมันกับเครื่องมือตัวอื่นบน Reason ด้วย Combinator

อย่างไรก็ตาม เรามาดูกันว่านอกจาก THOR แล้ว Reason ใหม่จะใส่อะไรเพิ่มบ้าง แต่กว่าจะรู้ก็ตอนที่มันเปิดตัวพอดี เพราะผู้ผลิตรายนี้ชอบเก็บความลับเหลือเกิน

ที่มา Sound Desire

del.icio.us tags: synth, reason, propellerhead, THOR

1 ความคิดเห็น

Jan 27, 2007

รายชื่อผู้ได้รับหนังสือ

[เก็บตก NAMM 2007] Z.Vex

[เก็บตก NAMM 2007] Xpander ของ Universal Audio

[เก็บตก NAMM 2007] Nexsyn จาก KeyToSound

[เก็บตก NAMM 2007] GenoQs Octopus

[เก็บตก NAMM 2007] Samwoo Metronome Stonehenge

[เก็บตก NAMM 2007] Beyerdynamic Headzone

[เก็บตก NAMM 2007] เครื่องดนตรีชิ้นใหม่ของ Garritan

[เก็บตก NAMM 2007] Footime

[เก็บตก NAMM 2007] Koyabu เครื่องสายจากญี่ปุ่น

[เก็บตก NAMM 2007] Boss Tiny Amp

[เก็บตก NAMM 2007] C-Thru Axis-64

[เก็บตก NAMM 2007] Control Pad จาก Alesis

[เก็บตก NAMM 2007] AudioCubes จาก PERCUSSA

เก็บตก Winter NAMM 2007

เสียงเดโมของ Vocalist Live

Jan 26, 2007

Passion SoundParty Episode 1 ยังไงดี?

Jan 24, 2007

Vocalist Live จาก Digitech ของชอบสำหรับมือกีตาร์นักร้อง

Jan 23, 2007

ขยันซ้อม หรือพรสวรรค์?

Drum Machine ตัวใหม่จาก Dave Smith และ Roger Linn

Ubuntu Studio: Linux Music กำลังจะปฏิวัติ

จำได้ว่ากระแส Linux Music เริ่มบูมขึ้นทั่วโลกเมื่อ 4 ปีก่อนได้ ตอนนั้นผมเองก็ตั้งใจจะพอร์ทระบบการทำงานทั้งหมดเป็น Linux โดยหันไปมองดิสโทรอย่าง Fedora Core ที่ตอนนั้นอยู่ที่ Core 2 แล้วตามระบบนำร่องอย่าง Planet CCRMA แต่จนแล้วจนรอดก็ติดปัญหาหลายประการที่ทำให้ไม่ได้เริ่มต้นเสียที อย่างเช่นการทำให้ Notebook ซึ่งมีความละเอียดจอแบบ Native ไม่เหมือนชาวบ้าน สามารถรัน Fedora ได้อย่างเต็ม ๆ ไปจนถึงการหาไดร์เวอร์เนตเวิร์กที่จะช่วยดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ มาเล่น ปัจจุบันนี้มี Linux Distro ที่น่าใช้มาก ๆ อย่าง Ubuntu ซึ่งนักพัฒนา พยายามที่จะดันให้เป็นที่นิยมให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น GUI สวยงามน่าใช้ ไปจนถึงการใช้งานแบบ Live CD ไปจนถึงปัจจุบันที่สามารถติดตั้งผ่าน Windows ได้เลย เราไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าเล่นเนตไปพลาง รอการติดตั้งไปพลาง

และอีกไม่นานหลังจากนี้ เราจะได้เห็นก้าวต่อไปอย่าง Ubuntu Studio ที่ทำมาเพื่อผู้สร้าง Multimedia Contents โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแต่งเพลง ตัดต่อวิดีโอ ฯลฯ โดยจะรวมเอาแพคเกจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Multimedia ทั้งหมดมาใส่ และตัดที่ไม่จำเป็นออกไป นักดนตรีอย่างเรา ๆ จะได้ใช้โปรแกรมอย่าง Ardour และธีมหลักคือสีดำเท่มาก ๆ อย่าง Tango-noir (Screenshot) โดยจะปล่อยให้ดาวน์โหลดกันในช่วงเดือนเมษาซึ่งเป็นช่วงที่ครบรอบหนึ่งปี PassionSound พอดีครับ

อ่านรายเอียดเพิ่มเติม Ubuntu Studio

ที่มา Blognone

3 ความคิดเห็น

Jan 22, 2007

ของเล่นใหม่ของ Roland

V-Synth GT เป็นตัวยอดธงของทาง Roland เค้าเลย ผมเองเคยตะลึงกับแนวคิด Elastic Audio Synthesis ของมันเมื่อตอนรุ่นแรก ๆ ที่เป็น Rack-Mount ตอนหลัง ๆ เทคนิคเหล่านี้ ถูกนำไปถ่ายทอดเป็นซอฟต์แวร์ให้เราได้ใช้กันหมดแล้ว แต่ทาง Roland อ้างว่า V-Synth GT รุ่นนี้จะเพิ่มระบบ AP (Articulative Phrase) Synthesis เข้าไป ซึ่งเท่าที่อ่านรายละเอียดคร่าว ๆ มันก็คือ Physical Modeling Synthesis นั่นแหละ (ผู้ผลิตกระแสหลักอย่าง Korg, Roland ชอบตั้งชื่อหรู ๆ มาเรียกเทคนิคสังเคราะห์เสียงของตัวเอง ทั้งที่มันก็มาจากเทคนิคพื้นฐานที่หลุดออกมาจากสถาบันวิจัย+การศึกษา ทั้งหมดนี้คือการพยายามทำให้ End-User เชื่อว่ามัน "ใหม่" จริง ๆ)

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยหน้าจอทัชสกรีนสีสวยสด และรูปแบบการใช้งานที่ออกแบบมาเพื่อนักออกแบบเสียงโดยเฉพาะ ก็ทำให้มันน่าใช้ไม่น้อยครับ

VG-99 Guitar System น่าจะเป็นเอฟเฟกต์จำลองเสียงจากแอมป์และกีตาร์รุ่นต่าง ๆ ที่อลังมากที่สุด มีหน้าจอแสดงผลมีเอฟเกต์ให้เลือกใช้เพียบ แม้แต่ฟังก์ชันการแปลงเป็น MIDI สำหรับเล่นกับซินธ์อีกด้วย แถมยังทำงานเป็น USB Audio Interface ได้อีก ที่ฮาก็คือติด D-Beam กับ Ribbon มาให้ด้วย แล้วมือกีตาร์จะใช้มันยังไงเนี้ย...?

MV-8800 ตัวนี้น่าจะทำมาปราบ MPC ของฝั่ง Akai แถม TR-808/909 พร้อม Sound Library อีกเป็นกระตั๊กบน Harddrive ในตัว เอฟเฟกต์ชุดใหญ่รวม Space Echo ต่อเข้ากับหน้าจอแสดงผล VGA ได้ ดู ๆ แล้ว เหมือนเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมที่ออกแบบมาเพื่อทำงานดนตรีแต่เพียงอย่างเดียวครับ

ทั้ง 3 ตัวยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.rolandus.com (มี Interactive Demo ให้เล่นด้วยนะ)

0 ความคิดเห็น

Jan 21, 2007

DJ Tools จาก NI

หลังจากแยกทางกับ Stanton ผู้ผลิต Final Scatch ก็พอจะเดากันได้ว่า NI จะทำผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันมาแน่ ๆ ซึ่งก็เปิดตัวในงาน NAMM นี่เองครับ

Traktor Scatch คือระบบที่ประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์ Timecoded Vinyl สำหรับควมคุมการเล่นเสียงของซอฟต์แวร์ดีเจผ่าน Turntable หรือถ้าเล่นผ่าน CDJ ก็มี CD มาให้ใช้ได้ด้วย ต่อเข้ากับฮาร์ดแวร์อินเตอร์เฟสอย่าง AUDIO 8 DJ เป็นออดิโออินเตอร์เฟสที่ออกแบบมาเพื่อดีเจโดยเฉพาะ (ซื้อแยกต่างหากได้)

Traktor Scatch คือวิธีการนำเซตอัพ Turtables แบบเก่า มาควบคุมการเล่นเพลงด้วยซอฟต์แวร์แบบใหม่

ตัวซอฟต์แวร์ดีเจ ก็เป็นเวอร์ชันพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะ โดยจะตัด Features มาจาก Traktor 3 และใช้ได้แค่ 2 Decks เท่านั้น ฟังก์ชันหลัก ๆ อื่น ๆ เช่น Effects, Looping, iPod ,Time-Stretching ฯลฯ ยังอยู่ครบ

หากติดใจจาก Final Scatch นี่ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ใหม่สดกว่าครับ ราคาของทั้งชุด $669 ส่วน AUDIO 8 DJ นั้นอยู่ที่ $449

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.native-instruments.com/

0 ความคิดเห็น

Jan 20, 2007

One Bit Music in CD Case

DIY PassionSoundian ขาประจำ ได้ส่งเรื่องนี้มาให้ผ่าน Forum ครับ

1-Bit Music เป็น project ที่ถูกทำขึ้นโดยศิลปินชื่อ Tristan Perich ด้วยการผสมผสานความรู้และความสนใจในศิลปะบวกกับดนตรีแนว electronic โดย Perich ได้ทำการโปรแกรมและออกแบบกล่องใส่ cd ธรรมดาที่เราเห็นทั่วไปตามแผง cdแต่มันพิเศษตรงที่เจ้ากล่องอันนี้มันไม่ได้มีแผ่นcdใส่อยู่ข้างในเหมือนกล่องทั่วไปแต่กลับมีแผงวงจรไฟฟ ้าแทนโดยเจ้าแผงนี้จะเป็นแหล่งกำเนิดเสียงเมื่อหูฟังถูกเสียบซึ่งดนตรีแนว minial glitch/dance จะถูกเล่นมีเพลงทั้งหมด 11 เพลงซึ่งถูกโปรแกรมไว้ในmicrochipที่ถูกติดอยู่ในกล่องcd1Bitmusicสามารถหาซื้อร้านcdทั่วไป(แต่เมืองไทยไ ม่รู้มีเปล่าใครรู้ช่วยบอกด้วยแล้วกัน)โดยประกอบด้วย track 11 track และมีปุ่ม skip button เอาไว้เลือกเพลงได้ หมดห่วงเรื่องโดนเทปผี cd เถื่อน ลองเข้าไปฟังเพลงเคาได้ครับเจ๋งดี
http://www.onebitmusic.com/

Source: PassionSound | Computer Music Journal of Thailand - หน้าแรก

ขอบคุณ DIY

ความเห็นส่วนตัว: ผมได้ฟังเพลง 1 Bit แล้ว ยังทำใจให้ฟังจนจบยากมากเลย ผมว่าถ้าทำเป็น 8 Bit Multi-Tracks ได้ คงน่าสนใจกว่านี้นะ

1 ความคิดเห็น

KikAxxe จาก Way Out Ware

Way Out Ware ถือเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ที่แปลงอนาลอกซินธ์มาอยู่ในรูปแบบปลั๊กอินได้ดีอีกรายหนึ่งครับ หลังจากได้รับคำชมพอสมควรกับ TimewARP 2600 คราวนี้เป็นคิวของ ARP Axxe ในชื่อที่ฟังแปร่ง ๆ ว่า KikAxxe

มันเป็น Analog Synth/Sequencer+Drum Machine+Dealy/Echo ที่ทาง ARP จัดทำหลังจากรุ่น 2600

ราคาในคราวนี้ถือว่าไม่แพงอย่างยิ่ง (ในสังคมตะวันตก) $69.95 มีให้ใช้แบบ Native ในทุกระบบ รวมไปถึง Standalone

ความเห็นส่วนตัว: ในสมัยที่ผมเรียนรู้ Computer Music ใหม่ ๆ นั้น จะรู้สึกตื่นเต้นและดีทุกครั้งที่เห็นการนำ Vintage Synth มาทำเป็นรูปแบบซอฟต์แวร์ แต่ผ่านเวลาไป 4-5 ปี หลังจากที่เริ่มรู้สึกเบื่อ ๆ กับซอฟต์แวร์แบบนี้ ผมกลับค้นพบว่าตัวเองจะตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นซอฟต์แวร์ดนตรีแนวคิดใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Instruments, Effects, GUIs, ไปจนถึง New Interface for Musical Expression งาน NAMM ปีนี้ ยังไม่เห็นอะไรที่ใหม่ ๆ จริง ๆ อย่างที่อยากเห็นเลยแฮะ

0 ความคิดเห็น

Fourier Synthesis ทำจาก Excel !!

ผู้ชนะ-ผู้แพ้ในโลกแห่ง Digital Media ปี 2006

เป็นธรรมดาที่ช่วงส่งท้ายปีที่บรรดาสื่อต่าง ๆ ได้ทำการรวบรวมสถิตต่าง ๆ ทั้งในด้านดี ด้านเสียของแต่ละวงการ ลองมาดู mp3newswire ประกาศรายชื่อผู้ชนะ ผู้แพ้ในโลกของ Digital Media ดูบ้าง

ผู้ชนะพาเลซกันมาตั้งแต่พวกเว็บ 2.0 อย่าง YouTube.com-MySpace ที่ถูกอากู๋ซื้อ เรียบร้อยโรงเรียน Google รวมทั้งไฟล์แชร์ริ่งอย่าง BitTorrent/Azureus รวมทั้งเว็บแทรคเกอร์สัญญาณชาติสวีเดนอย่าง Pirate Bay ที่ต่อสู้กับกฏหมายอย่างหนักและกลับมาอย่างสง่าผ่าเผย รวมไปถึง Apple ที่ดวงขึ้นอย่างมาก ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งยอดขาย ipod และเพลง+หนังผ่าน iTunes ก็วิ่งกระฉูด ในปีนี้ก็จะมีโปรเจกต์ใหม่ ๆ อย่าง Wireless Set Top Box สำหรับชมสื่อดิจิตอลทุกอย่างผ่านทีวีอย่าง appleTV และ iPod+Mobile Phone+Internet Device ที่ทำให้ใคร ๆ ต่างอยากได้มัน iPhone รวมไปถึงการดีลกับสายการบินต่าง ๆ เพื่อให้ที่นั่งแต่ละที่มี iPod Dock ซึ่งมาตรฐานของ iPod กำลังล้ำหน้าผู้ผลิตรายอื่นไปเรื่อย ๆ ที่ตลกเล็ก ๆ คือ Creative ผู้ซึ่งชนะคดีสิทธิบัตรของ iPod ได้เศษตังค์จาก Apple ไป $100 ล้าน ก็ติดรายชื่อเป็นผู้ชนะกับเค้าด้วย

และสำหรับนักดนตรีแนว ๆ ก็ต้องร่วมแสดงความยินดีกับ DJ Danger Mouse (Brian Burton) ผลงานของเค้าในปี 2004 อย่าง Gray Album (งานรีมิกซ์ระหว่าง Black Album ของ Jay-Z กับ White Album ของ The Beatle) ซึ่งทาง EMI ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์พยายามที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ แต่ก็ต้องแพ้อิทธิพลของอินเตอร์เนตไป ส่งผลให้เค้าเคยติดรายชื่อเป็นผู้ชนะในปี 2004 ไปก่อนแล้ว และในปีนี้เอง ผลงานที่เค้าทำร่วมกับ Gnarls Barkley อย่าง Crazy ก็เป็นเพลงแรกที่ขึ้นอันดับหนึ่งของทาง UK ที่ขายผ่านการดาวน์โหลดเพียงอย่างเดียว และติดอันดับสองบนชาร์ทของทาง US อีกต่างหาก ส่งผลทำให้เค้าเป็นศิลปินคนแรก ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงโดยใช้อินเตอร์เนตเป็นช่องทางโปรโมทแต่เพียงอย่างเดียว

ส่วนทางด้านผู้แพ้นั้นมีประเดนหน้าสนใจคือบรรดาสิ่งที่ทำมาเพื่อความถูกต้อง (ในมุมมองของคนขายเพลง) อย่าง Sharman Networks-Captain Copyright-Digital Rights Management (DRM) รวมไปถึงระบบ Antipiracy ของทาง Sony ที่ครั้งนึงเคยเป็นความหวังอันริบหรี่ของทางค่ายเพลง เพราะมันทำมาเพื่อป้องกันการแชร์ไฟล์ แต่กลับกลายเป็นสร้างปัญหาให้กับลูกค้านักฟังเพลงมากยิ่งกว่า ซ้ำยังถูกเหล่าแฮกเกอร์พากันแฮกค์จนไม่เหลือความขลังอีกต่อไป แม้วันนี้มันจะยังอยู่ แต่ก็เป็นกรณีศึกษาไว้ว่า นักฟังเพลงอย่างเรา ๆ ไม่ชอบมัน และไม่ต้องการให้มันมีอยู่อีกต่อไป

ที่น่าสงสารที่สุดคือ Sony เพราะนอกจากจะแพ้คดีเรื่องซอฟต์แวร์ Antipiracy ใน CD ของ Sony BMG โดนปรับไปกว่า $1.4 ล้านแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ ต้องเปลี่ยนใหม่ให้กับลูกค้า มูลค่ากว่าพันล้าน ซ้ำร้าย Blu-Ray ที่ Sony ผลักดันมาตั้งแต่ต้น ถูกรวมอยู่ในกลุ่มผู้พ่ายแพ้ด้วย พร้อม ๆ กับทาง HD-DVD ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานับปีกว่าที่เหล่าผู้บริโภคทยอยเปลี่ยนไปใช้กันเยอะขึ้น

ที่น่าตลกสำหรับนักดนตรีคือ OLGA - Online Guitar Tablature Archive ก็จัดอยู่ในกลุ่มผู้พ่ายแพ้ เนื่องจากการปิดตัวไปอีกครั้งเพราะบรรดาค่ายเพลง ที่ว่าตลกก็เพราะว่าหากเรามองดูโปรเกรสชั่นของคอร์ดของเพลงฮิต ๆ ส่วนใหญ่ รวมไป 95% ของเพลงร็อคจะใช้คอร์ดสามัญไม่เกิน 3 คอร์ดหรืออย่างมากก็ 5-6 คอร์ดแค่นั้น แต่ถ้าเหล่านำมันมาเผยแพร่บนอินเตอร์เนต เราก็ต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของลิขสิทธ์เพลงด้วย..?

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ mp3newswire

0 ความคิดเห็น

Jan 19, 2007

JUPITER-8V จาก Roland เอ้ย Arturia

DJ Controller อีก 3 ตัวในงาน NAMM

เ

ในเว็บ M-Audio อุตสาห์ตั้งเวลานับถอยหลัง เพื่อปล่อยแคมเปญจ์ว่า "DJing will never be the same" ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายเราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่า มันจะไม่เป็นอะไรที่มากกว่า 2 Desk DJ Controller อย่างที่หลาย ๆ ผู้ผลิตพยายามทำกันอยู่แล้ว และผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็นในรูปครับ ที่รู้สึกดีหน่อย ก็ตรงที่ปุ่มเยอะมาก และครบทุกฟังก์ชันอย่างที่ดีเจใน "รูปแบบเดิม" ต้องการ

Torq Xponent ประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์ดีเจ Torq และ Hardware Controller พร้อม Audio Interface 4 เอาท์พุท+1/4" เฮดโฟนเอาท์พุท สนับสนุนความละเอียด 16 Bit/48 kHz บนไดร์เวอร์ ASIO/Core Audio ตัวคอนโทรลเลอร์นั้นน่ารักหน่อยตรงที่ขนาดใหญ่เต็มมือ มีไฟ LED ซึ่งน่าจะสื่อสารกับซอฟต์แวร์ Torq แบบไป-กลับ และมี X-Y touchpad มาให้ด้วย ตัวซอฟต์แวร์ Torq นั้นเป็นได้ทั้ง Standalone, VST, ReWire

แม้จะทำจากพลาสติก แต่นี่อาจเป็นตัวที่ฮิตเนื่องมาจากการที่มันเป็นคอนโทรลเลอร์แบบ Full-Size และตัวเดียวจบ

ราคา $750 รายละเอียดเพิ่มเติม M-Audio Torq Xponent DJ Controller/System

อีกตัวเป็นของ Numark DMC2 ครับ เป็นแบบวางบน Rack ขนาด 3 U โดยออกแบบมาให้ใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะใช้กับโปรแกรมของ Numark เองอย่าง Numark CUE Lite หรือโปรแกรมดีเจอื่น ๆ ต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB 2.0

ดู ๆ แล้วน่าจะเหมาะกับดีเจที่ซีเรียสและคุ้นเคยกับ CD-Player แบบดั้งเดิมครับ

ตัวสุดท้าย ตอนแรกเห็นว่าหน้าตาเหมือนกับ iCue DJ Controller จาก Ion DJ อย่างไม่น่าเชื่อ เลยเข้าใจว่าเป็นตัวเดียวกัน แต่แท้จริงเป็นคนละตัวครับ Total Control มีรูปแบบอย่างที่เราคุ้นเคยกันดี แถมซอฟต์แวร์สองตัวคือ CUE LE กับ Traktor LE พร้อม Overlay Skin จากทั้งสองโปรแกรมมาแปะบนตัว Total Control ต่อเข้าคอมผ่าน USB ได้เลย ไม่ต้องมีไดร์เวอร์

ทั้งสองตัว ราคายังไม่ประกาศ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.numark.com/

0 ความคิดเห็น

ของเล่นใหม่จาก Korg

ผู้ผลิตเครื่องดนตรีรายใหญ่อย่าง Korg นั้น มีของดี ๆ มาเปิดตัวในงาน NAMM ทุกปีครับ ปีนี้มีทีเด็ดทุกตัว ลองมาชมกัน

Korg M3 เป็นคีย์บอร์ดเวิร์กสเตชั่น พร้อมฟังก์ชันแซมเปลอร์ โดยตัวมันได้หยิบยืมหลาย ๆ ส่วนมาจาก OASYS ในราคาเบา ๆ Synthesis Engine-KARMA-จอแสดงผลแบบทัชสกรีน-X/Y pad-ใช้งานเป็นปลั๊กอิน-EXB Filrewire Option ฯลฯ ยังมีอะไรที่เวิร์กสเตชั่นควรจะมีและ M3 ไม่มี...?

วางจำหน่ายกลางปี 2007 ราคายังไม่ประกาศ

ชอบ Kaoss Pad แต่ไม่ต้องการอะไร Advance แบบ KP3 ลองดู mini-KP ดูครับ เอฟเฟกต์หลายตัวก็ยกมาจาก KP3 นั่นแหละ มีทั้งหมดประมาณ 100 ตัวให้เลือกใช้ รวมซินธ์ที่ยืมมาจาก RADIAS

วางจำหน่ายมีนาคม 2007 ราคา $250

ตัวนี้ โดยส่วนตัวแล้ว อยากได้ที่สุดครับ Korg R3 ว่ากันว่าคือ microKorg ตัวใหม่ โดยยืมฟังก์ชันหลาย ๆ อย่างมาจาก Radius อย่าง Vocoder 16 Bands, 2 OSCs, 2 LFOs, 2 Filters, 3 ADSR พร้อมระบบมอดดูเลชั่นอีก 6 เส้นทาง มี USB สำหรับต่อเข้าคอมพิวเตอร์เพื่ออิดิตเสียง คีย์บอร์ดแบบ Full-Size 37 คีย์

วางจำหน่ายมีนาคม 2007 ราคายังไม่ประกาศ

อันนี้ก็น่าสนใจครับ Korg Legacy Analog Edition 2007 เพิ่มวินเทจซินธ์อย่าง Mono/Poly เข้าไปในตระกูลซอฟต์แวร์ซึ่งก็น่าจะให้ซาวน์อร่อยถูกใจแฟน ๆ Korg เหมือนอย่าง MS-20 กับ Poly6 แน่นอนครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมที www.korg.com

0 ความคิดเห็น

Jan 18, 2007

Predator ซินธ์ตัวใหม่ของ Rob Papen

Origin Hardware Synth จาก Arturia

Arturia ถือเป็นผู้ผลิตที่เอาจริงเอาจังในการจำลองฮาร์ดแวร์ซินธ์ชื่อดังในอดีตมากที่สุดรายหนึ่ง มาคราวนี้แม้ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ซินธ์ก็ตาม แต่แท้จริงแล้ว Origin ก็ยังเป็นดิจิตอลซินธ์ที่จำลองอนาลอกโมดูลาร์ซินธ์รุ่นดัง ๆ อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็น Moog Modular, ARP2600, CS-80, MInimoog, Prophet VS ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็ถูก Arturia นำมาทำเป็นเวอร์ชันซอฟต์แวร์ไปแล้วเรียบวุธ ก็คือเป็นความฉลาดในเชิงการค้าครับ เพราะเป็นการนำความรู้เก่าที่มีอยู่แล้ว มาเปลี่ยนรูปใหม่เพื่อนำมาขายต่ออีกครั้งอย่างลงตัว

ทีเด็ดของมันอยู่ที่ TigerSHARC เป็น DSP Processors จาก Analog Devices ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ชิปตัวนี้นำมาใช้บนฮาร์ดแวร์ซินธ์ อย่างที่สองคือการที่มันใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเดี่ยว ๆ บนเวที หรือใช้งานในรูปแบบปลั๊กอินให้กับซีเควนเซอร์ในสตูดิโอก็ยังได้

รายละเอียดในส่วนฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย 2 อิน 10 เอาท์ S/PDIF Out และ USB 2.0 สำหรับส่ง Audio/MIDI หรือจะส่ง MIDI ผ่าน 5 pin DIN Cable ก็มีทั้ง In/Out/Thru

ใครที่ชอบและอยากนำโมดูลของซินธ์ชื่อดังมายำเข้าด้วยกัน นี่ก็น่าจะเป็นอีกหนทางหนึ่ง นอกจากซอฟต์แวร์อย่าง Kore แถมยังไม่กระทบกระเทือน CPU อีกต่างหาก แต่อาจต้องรอนานหน่อยนะครับ เพราะจะวางจำหน่ายตอนปลายปีในราคา $2999

รายละเอียดเพิ่มเติม Arturia Origin

0 ความคิดเห็น

แล้ว Waldorf ก็กลับมา!!

หากจะบอกว่า งาน NAMM ปีนี้เป็นของ DJ ก็คงจะเกินไปหน่อย เพราะบรรดาผู้ผลิตคีย์บอร์ดทั้งหลาย ต่างก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของตัวเองเปิดตัวมายั่วน้ำลายแฟน ๆ แทบทั้งนั้น ส่วนตัวแล้ว ถ้าไม่เห็นอะไรที่ใหม่จริง ๆ ก็จะไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไรครับ

แต่ข่าวการกลับมาของ Waldorf นั้น ก็น่ายินดีไม่น้อย เพราะกลับมาพร้อมกับไลน์ของผลิตภัณฑ์หลากหลายพอควร ดู pdf brochure ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นงานฝีมือจากเยอรมันครับ

และออกแบบโดย Axel Hartmann ผู้อยู่เบี้องหลังการออกแบบซินธ์สุดเจ๋ง (แต่เจ๊ง!!) อย่าง Neuron เราลองมาดูกันครับ ว่าชุดนี้มีอะไรบ้าง...

ที่เห็นปุ่มหมุนถึง 58 ปุ่มนี้คือ Q/Q+ Virtual Analog Synth ครับ 5 ออสซิลเลเตอร์ 2 Multimode Filters per Voice และ 16 อนาลอกฟิลเตอร์ (ของจริง) แม้จะต้องต่อสู้กับซอฟต์ซินธ์ในปัจจุบันที่เสียงดีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่การใส่อนาลอกฟิลเตอร์เข้าไป น่าจะซื้อใจคนชอบซาวน์อร่อยแบบอนาลอกได้มากครับ

micro Q เป็น Q ในรูปแบบ Rack-Mount ใช้ซาวน์เอนจิ้นตัวเดียวกัน

หน้าตาน่ารักมาก blofeld เป็นซินธ์โมดูล พร้อมซาวน์ให้เลือกใช้และอิดิตได้กว่าพันเสียง ที่เจ๋งคือต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB 2.0 นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยสร้างสีสันให้ Desktop Music Production ครับ

zarenbourg เปียโนไฟฟ้าที่จำลองเสียงของตัวอื่น ๆ มาถึง 5 รุ่น 76 คีย์ไม้ พร้อมกล่อง เพิ่มลำโพงได้ หรือต้องการเพนต์แบบพิเศษอย่างในรูป ก็สั่งทำได้

stromberg ใช้ออสซิลเลเตอร์แบบ Wavetable, 100 Voice Polyphony, โดยใช้เสียงจาก Waldorf Wave, Microwave, Q เป็นรุ่นยอดธงของทั้งหมดครับ

คนรักซอฟต์แวร์ก็ยังมี Waldorf Edition PPG Wave 2.V ซึ่งเป็นตัวจำลอง PPG Synth อันโด่งดังในยุค 80 ด้วย

หากสนใจเกาะติดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากงาน NAMM ในเว็บเมืองไทยก็มีที่ patid อัพเดทโดยเอียวิทย์ ตั้งไข่ และหมอจุ๊บ กัปปิตันเนโม่ครับ

ที่มา CDM

the absolute sound & stage สนับสนุนข่าว

0 ความคิดเห็น

Brian Eno แต่ง Generative Music ให้เกม Spore

E-MU goes Mac!!

Wave Arts : Master Restoration Suite

Subscribe to: Posts (Atom)